รัฐศาสตร์ มช.
คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ผู้เข้าชมรวม
13,067
ผู้เข้าชมเดือนนี้
13
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ปฐมลิขิต : บทความนี้เป็นบทความที่ผู้เยี่ยมชมส่งเข้ามาทาง ubyi@dek-d.com
เจ้าของบทความ : u491910115@cm.edu
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"วันนี้ฤกษ์ดีน้องพี่รัฐศาสตร์
ชุมนุมประกาศสามัคคีเหล่าสิงห์
เราร่วมแรงใจเทิดในรัฐศาสตร์
ขอจงองอาจสมชาติของนักปกครอง"
มาร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับเรา สิงห์ขาว
ที่ปกครองพัฒนาประเทศชาติบ้านเมือง จนอายุปาเข้าไป 42 ปี แห่งความภูมิใจ
คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เดิมคือ
ภาควิชารัฐศาสตร์ สังกัดคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ได้เปิดทำการมาแล้วเป็นระยะเวลา 42 ปี โดยเปิดสอนครั้งแรกในเดือนมิถุนายน
พ.ศ. 2508 ซึ่งเป็นปีที่สองถัดจากการจัดตั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในปี พ.ศ.
2507
ในสาขาวิชารัฐศาสตร์ซึ่งประกอบด้วยสาขาวิชาการเมืองการปกครองและสาขาวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ระดับปริญญาตรี ต่อมาในปี พ.ศ. 2529
ได้เริ่มเปิดสอนสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ระดับปริญญาตรี
เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งสาขาวิชา (ในปี พ.ศ. 2535
ได้เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีสาขานิติศาสตร์เพิ่มขึ้นอีก 1 สาขาวิชา
และขณะนี้กำลังดำเนินโครงการจัดตั้งเป็นคณะนิติศาสตร์เช่นกัน)
นับตั้งแต่สาขาวิชารัฐศาสตร์และสาขาวิชารัฐประศาสน-ศาสตร์เริ่มเปิดสอนจนถึงปัจจุบัน
ได้ผลิตบัณฑิตจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 5,000 คน
ต่อมาสาขาวิชารัฐศาสตร์และสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์
ยังได้เปิดสอนในระดับปริญญาโทอีก 2 หลักสูตร ดังนี้คือ (1) ปีพ.ศ.
2531 หลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองและการปกครอง
(ภาคปกติ) และ ปีพ.ศ. 2533 หลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาการเมืองและการปกครอง (ภาคพิเศษ) (2) ปี พ.ศ. 2536
หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (ภาคปกติ) และ ปี พ.ศ. 2542
หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (ภาคพิเศษ)
ซึ่งนับตั้งแต่เริ่มเปิดสอนระดับปริญญาโทจนถึงปัจจุบันสาขาวิชาฯ
ทั้ง 2 ได้ผลิตมหาบัณฑิตไปแล้วประมาณ 1,000 คน
บัณฑิตและมหาบัณฑิตของสาขาวิชารัฐศาสตร์และสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์
ซึ่งมีความรู้ ความสามารถ มีทักษะในวิชาชีพ
กอปรด้วยจิตสำนึกของความรับผิดชอบต่อสังคมได้ออกไปรับใช้สังคมและประเทศชาติอย่างกว้างขวาง
ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐและเอกชน
จนทำให้การจัดการบริการการศึกษาของสาขาวิชาฯ
เป็นที่ยอมรับว่าเป็นแหล่งผลิตบัณฑิตที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศ
ที่มีชื่อเสียงทัดเทียมกับคณะรัฐศาสตร์และคณะรัฐประศาสนศาสตร์ของสถาบันอุดมศึกษาระดับประเทศที่จัดการเรียนการสอนในสาขาวิชาทั้งสองนี้
สาขาวิชารัฐศาสตร์และสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์
มีนักศึกษาซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรีจำนวนทั้งสิ้น 665 คน
มีนักศึกษาระดับปริญญาโท ทั้งภาคปกติและภาคพิเศษ จำนวนประมาณ 400
คน และคาดว่าในปีการศึกษา 2550 นี้ จะเปิดสอนระดับปริญญาโท
หลักสูตร รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (การบริหารท้องถิ่น)
ทั้งภาคปกติและภาคพิเศษ ระดับปริญญาเอก
หลักสูตรรัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิต และหลักสูตรนานาชาติ
สาขาวิชากิจการสาธารณะระหว่างประเทศ (ภาคปกติ)
การจัดทำข้อเสนอโครงการจัดตั้งคณะรัฐศาสตร์ได้เริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ.
2537 ซึ่งขณะนั้นอยู่ในช่วงแผนพัฒนาการศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ระยะที่ 7 (พ.ศ. 2535 - 2539)
การเตรียมการในขณะนั้นยังคงเป็นคณะในระบบราชการและได้รับการสนับสนุนจากสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
แต่เนื่องจากในปี พ.ศ. 2540 ประเทศไทยได้ประสบวิกฤติเศรษฐกิจ
ทำให้รัฐบาลชะลอโครงการจัดตั้งหน่วยงานราชการใหม่ตามมติคณะรัฐมนตรี
ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2540
ซึ่งมีผลให้ต้องชะลอโครงการจัดตั้งคณะไว้ก่อนด้วย
จากแนวคิดในการผลักดันให้หน่วยงานในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีความคล่องตัว
และมีอิสระในการบริหารจัดการ
ส่งผลให้มีการนำข้อเสนอโครงการจัดตั้งคณะรัฐศาสตร์ซึ่งได้จัดทำไว้ในปี
พ.ศ.2537 กลับมาพิจารณาและปรับปรุงโครงการใหม่ในชื่อว่า
"โครงการจัดตั้งคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์"
คณะใหม่นี้จะประกอบด้วย 2 สาขาวิชา ได้แก่
สาขาวิชาการเมืองการปกครองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
และสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ชื่อคณะดังกล่าวนี้สื่อความหมายว่า
องค์กรมีภารกิจหลักก็คือ
ผลิตบัณฑิตด้านรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ไปรับใช้สังคม
สาขาวิชารัฐศาสตร์ได้เปิดสอนมาก่อนเป็นเวลา 42 ปี
และปัจจุบันยังเป็นสาขาวิชาที่จัดการเรียนการสอนอยู่
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยส่งเสริมรากฐานการเมืองการปกครองประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม
และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบสมานฉันท์
ขณะที่สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์เปิดสอนมาเป็นเวลา 19 ปี
มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเสริมสร้างการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดีได้
และปัจจุบันเป็นสาขาวิชาที่มีความนิยมอยู่ในระดับสูง
แนวโน้มนี้จะยังคงเป็นอยู่ในอนาคต
โดยเฉพาะหลักสูตรระดับปริญญาโทสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ภาคพิเศษ
มีจำนวนผู้สมัครเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในปี พ.ศ. 2542
ซึ่งเปิดสอนเป็นปีแรก มีผู้สมัคร 77 คน ปี พ.ศ. 2547 และ 2548
มีผู้สมัคร 262 และ 344 คน ตามลำดับ คณะที่จัดการเรียนการสอนใน 2
สาขาวิชานี้ที่ก่อตั้งในระยะแรก ๆ ในประเทศไทยล้วนกำหนดชื่อคณะว่า
คณะรัฐศาสตร์ และไม่มีการปรับเปลี่ยนชื่อในเวลาต่อมา
แต่คณะที่มีการจัดการเรียนการสอนในสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์เพียงสาขาเดียว
ล้วนกำหนดชื่อคณะว่า คณะรัฐประศาสนศาสตร์
ด้วยเหตุนี้จึงมีความเหมาะสม
ในอันที่จะกำหนดชื่อคณะใหม่เพื่อแสดงถึงภารกิจด้านการเรียนการสอนทางรัฐศาสตร์และ
รัฐประศาสนศาสตร์นี้ว่า คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ (Faculty
of Political Science and Public Administration)
โดยเฉพาะชื่อคณะนี้สอดรับกับความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
หรือกลุ่มเป้าหมายที่ใช้บริการด้านการศึกษาและการบริการวิชาการของ
2 สาขาวิชา
การเป็นคณะในกำกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ทำให้คณะเป็นหน่วยงานที่มีฐานะทัดเทียมกับสาขาวิชาอื่นในสายสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ที่จัดการเรียนการสอน
ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อาทิเช่น เศรษฐศาสตร์ บริหารธุรกิจ
และการสื่อสารมวลชนลัยเชียา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นหน่วยงานที่มีความคล่องตัวในลักษณะคณะในกำกับ
ซึ่งมีภารกิจที่มุ่งเน้นด้านการวิจัย ความเป็นเลิศทางวิชาการ
และการพึ่งพาตนเองได้ นอกจากจะสอดรับกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ
และวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
และนโยบายการเป็นมหาวิทยาลัย/คณะในกำกับของรัฐบาลแล้ว
ยังจะเอื้ออำนวยต่อการบรรลุสัมฤทธิผลในการดำเนินงานในที่สุด
ครับจากประวัติคณะอันยาวนานสร้างเกียรติภูมิไว้มากมาย
สิงห์ขาวเราผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ รุ่นพี่ของเรามีทั้งผู้ว่า นายอำเภอ
ผู้บริหารระดับสูง ตำรวจ ทหาร รัฐมนตรี มากมาย นอกจากนี้เรายังคือ1 ใน 5
สิงห์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพและความสามารถเป็นที่ยอมรับของวงการราชการและเอกชนในปัจจุบันอันได้แก่
สิงห์ขาว (รัฐศาสตร์ม.ช.) สิงห์ดำ(รัฐศาสตร์จุฬา) สิงห์แดง(ธรรมศาสตร์)
สิงห์เขียว(ม.เกษตร) และสิงห์เงิน( รัฐศาสตร์มศว)
เชิญน้องๆเข้ามาร่วมพิสูจน์ตนเองกันนะครับ เกิดเป็นสิงห์ หยิ่งในศักดิ์
รักในเกียรติ รัฐศาสตร์ประชาชนรอเราอยู่ครับ
จาก สิงห์ขาว
ผลงานอื่นๆ ของ ~ UBYI ~ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ~ UBYI ~
ความคิดเห็น